วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

19 วิธีดูแลผมที่คุณรัก (Lisa)

"ผมทอง"
 เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

19 วิธีดูแลผมที่คุณรัก (Lisa)

ผมของคุณก็เหมือนหุ้นส่วนหัวใจ ถ้าผมเสียไป คนที่เสียใจคือคุณ

          ผมนุ่มสลวย มีน้ำหนัก เป็นเงางาม เป็นที่ปรารถนาของผู้หญิงทุกคน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละคน นอกจากนี้ การดูแลผมที่ผิดวิธีก็ทำให้ผมเสีย จัดทรงยาก ดูไม่มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะผู้ที่มีผมเส้นเล็ก มักจะมีปัญหาในการจัดแต่งทรงผมยากเป็นพิเศษ จนกลายเป็นความกังวล

          ต่อไปนี้คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว เพราะมีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชนิดต่างๆ ให้คุณเลือกมากมาย คงมีบางชนิดที่เหมาะกับลักษณะเส้นผมของคุณ นอกจากนี้ เรายังมีเคล็ด (ไม่ลับ) มากระซิบบอกคุณถึงวิธีดูแลจัดแต่งทรงผม โดยเฉพาะสำหรับผมเส้นเล็ก เพื่อคุณจะได้มีทรงผมสวยอย่างที่คุณใฝ่ฝันมานาน แล้วคุณจะตะลึงกับความสวยของคุณ หลังจากที่ได้ทดลองทำตามข้อแนะนำทุกข้อต่อไปนี้


1 ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

          ผมเส้นเล็กบาง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราติน คาราไมล์ หรือแพนทีนอล เพื่อปกป้องเส้นผมให้รอดพ้นจากการทำลายของสายลม แสงแดด และช่วยให้ผมดูหนาขึ้น

2 เปลี่ยนผมแสกข้าง
          ถ้าคุณแคยแต่แสกผมอยู่ข้างเดียวมาตลอด จะทำให้ทรงผมแบนราบอยู่ด้านเดียว ทดลองเปลี่ยนผมแสกข้างมาอีกด้านหนึ่งบ้างจะทำให้ผมดูหนาและได้รูปทรงดีขึ้น ช่วยหนีความจำเจได้อีกด้วย

3 แชมพูช่วยขจัดสารเคมีที่ตกค้าง

          หากใช้ยาสระผมจำพวก แคลริฟายอิง แชมพู (Clarifing Shampoo) จะทำให้ผมเส้นเล็กดูหนาและจัดทรงง่ายขึ้น คุณควรสระผมด้วย แคลริฟายอิง แชมพู อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพื่อชำระล้างสารเคมีที่ตกค้างบนเส้นผม ปรับสภาพสู่สมดุลตามธรรมชาติ

4 ผมแห้ง
          ไม่ควรใส่ทรีตเมนต์ขณะที่ผมยังเปียกอยู่เพราะจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ให้ไดร์ผมเป็นรูปกากบาทจนเกือบแห้ง แล้วจึงนวดผมด้วยโฟมแต่งผม จากนั้นไดร์ให้แห้ง

5 ผลิตภัณฑ์ ทู อิน วัน

          ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท ทู อิน วัน เพราะจะมีสารตกค้างติดเส้นผมทุกครั้งที่สระ จะทำให้ผมเกาะติดกันและยากต่อการจัดทรงผม

6 การฉีดสเปรย์

          เมื่อทำผมเสร็จ ให้ฉีดสเปรย์จากล่างขึ้นบน สำหรับผู้ที่มีผมยาวไม่ควรฉีดสเปรย์บนศีรษะ แต่ให้ฉีดจากด้านข้างและด้านล่างขึ้นมา จะทำให้ผมได้ทรงสวย

7 ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพียงเล็กน้อย

          โดยปกติ คนที่มีผมเส้นเล็กมักใช้แวกซ์ เจล หรือบาล์ม แต่จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เหมาะกับผมเส้นเล็ก เพราะจะทำให้ผมแข็งทื่อและหยาบ นอกจากนี้ เมื่อคุณออกไปเจอสายลม แสงแดด น้ำยาแต่งผมจะเกาะกันเป็นก้อน ลองเปลี่ยนมาใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมในระหว่างไดร์ผม โดยฉีดจากล่างขึ้นบนทีละช่อและไดร์ให้แห้ง ผมจะนุ่มสลวยได้รูปทรงดี

8 สระผมทุกวัน

          ผมเส้นเล็กมักจะมีปัญหาผมมันเร็ว จึงควรสระผมทุกวันด้วยโวลุ่ม แชมพู (Volume Shampoo) โดยไม่ต้องใช้ครีมนวดผม เพื่อทำให้ผมมีน้ำหนักและหนาขึ้น

9 การดูแลผมเส้นเล็กแบบง่ายๆ

          โดยทั่วๆ ไป วิธีการดูแลรักษาผมเส้นเล็กบอบบางมักจะยุ่งยากโดยไม่จำเป็น ผลิตภัณฑ์พิเศษในการดูแลรักษาผมเส้นเล็กก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีโวลุ่มเพียงเล็กน้อยก็ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงเพียงพอ

10 ทำทรงผมให้มีชีวิตชีวา

          ฉีดผมให้ชื้น จากนั้นนวดผมด้วยครีมจัดแต่งทรงผมหรือโฟมเล็กน้อย และปล่อยให้แห้งเอง

11 ทำผมให้ตัวเอง

          ผู้ที่มีผมยาวและเหยียดตรง หากมัดผมให้สูงเป็นหางม้าทิ้งไว้ทั้งคืน รุ่งขึ้นคุณจะมีผมทรงใหม่อีกสไตส์หนึ่ง ประหยัดทั้งเงินและเวลาเข้าร้านทำผม

12 เครื่องไดร์ผม

          การไดร์ผมอย่างถูกวิธีจะทำให้สวยได้นานหลายชั่วโมง เพราะว่ารูเล็กๆ ของเครื่องไดร์ผม จะเป่าตรงโคนผมได้ ทำให้ทรงผมอยู่ตัว

13 ผมเย็น

          หลังจากที่ไดร์ผมเสร็จแล้ว ควรปล่อยให้ผมเย็นลงทุกครั้งก่อนที่จะแต่งทรงผม เพราะจะทำให้ผมดูหนาและอยู่ทรงได้นาน ไม่ทำลายสภาพผมด้วย

14 โรลม้วนผมจัมโบ้

          สำหรับผู้ที่ไว้ผมยาวหรือมีความยาวระดับไหล่ ให้ไดร์ผมจนเกือบแห้ง จากนั้นฉีดโวลุ่มสเปรย์ (Volume Spray) ให้ชื้นแล้วจึงม้วนผมด้วยโรลจัมโบ้ (อย่าม้วนผมลดหลั่นกัน แต่ให้ม้วนไปรอบๆ) จากนั้น ไดร์ผมและปล่อยให้เย็นลง ก็จะได้ผมสวยตามต้องการ

15 การทำให้ผมไม่แบนราบ

          เทคนิคการตัดผมเพื่อหนุนให้ผมได้ทรงตามต้องการและแลดูหนา สำหรับผมที่ไม่มีน้ำหนักและยาวแค่คาง ให้แบ่งผมบนศีรษะและตัดผมบริเวณโคนผม สัก 2-3 ซ.ม. ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ จะช่วยให้จัดผมได้รูปทรงสวยและไม่แบนราบ

16 เทคนิคสำหรับผมสั้น

          นวดผมด้วยน้ำยาจัดแต่งทรงผม แล้วจึงหนีบผมด้วยที่หนีบและไดร์ผมที่โคน จากนั้นปล่อยให้เย็นลง ดึงที่หนีบออก และเอานิ้วยีผมให้เป็นทรง

17 แปรง

          ก่อนที่ผมจะแห้ง ให้ไดร์ผมโดยใช้แปรงกลม หวีเข้าด้านในบ้าง ด้านนอกบ้างสลับกันไป แล้วจึงฉีดสเปรย์

18 การไดร์ผม
          ไม่ควรไดร์ผมทันทีหลังสระ แต่เช็ดผมพอหมาดด้วยผ้าขนหนูก่อน จากนั้นฉีดโวลุ่มสเปรย์ที่โคนผมแล้วจึงไดร์ผมทั้งศีรษะโดยใช้มือช่วย

19 ผมอยู่ทรง
          แบ่งผมแล้วจับยกให้สูง จากนั้นฉีดสเปรย์ที่โคนผมและไดร์ให้แห้งแล้วปล่อยให้ผมเย็นลง วิธีนี้จะทำให้ผมอยู่ทรงและดูหนาขึ้น

อ้างอิง http://women.kapook.com/view4696.html




ดูแลผมสวยด้วยความลับธรรมชาติ

"ผมทอง"
เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

ดูแลผมสวยด้วยความลับธรรมชาติ

ไข่ มะนาว ขิง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ช่วยได้
การสร้างเสน่ห์ให้กับตนเองด้วยการดูแลรักษาร่างกายให้สะอาด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนที่รักสวยรักงาม วันนี้ Tips สุขภาพ กับ สสส. มีวิธีดูแลผม เสน่ห์อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามมาฝากกันคะ    
        
         เริ่มต้นที่คนที่มีปัญหาเรื่องผมแห้ง ซึ่งคนที่มีผมแห้งมักจะมีปัญหาเรื่องการหวีจัดทรงยาก ผมไม่มีสปริงไม่มีน้ำหนักขาดชีวิตชีวา ทำให้หนังศีรษะแห้งและเกิดสะเก็ดรังแคง่าย ลองใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับไข่ไก่ดูสิค่ะ วิธีการทำเพียงใช้น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะตั้งไฟอ่อนผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง (เอาเฉพาะไข่แดง) ตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นให้รอจนเย็นแล้วนำไปลูบให้ทั่วศีรษะ นวดด้วยปลายนิ้วให้ทั่วทั้งด้านหน้าจรดท้ายทอย โดยใช้ฝ่ามือขยำๆ ขยี้ๆ ให้ทั่วเพื่อให้ซึมเข้าสู่เส้นผม หลังจากนั้นใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมเอาไว้ หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วสระด้วยแชมพูอ่อนๆ อีกครั้ง  ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมจะนุ่มดูมีน้ำหนักและจัดทรงง่ายขึ้นค่ะ

           แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นของไข่ไก่ให้ลองใช้สูตรน้ำมันมะกอกดูก็ได้ค่ะ เพียงนำน้ำมันมะกอกอุ่นๆ 2-3 ช้อนโต๊ะ นำมานวดหนังศีรษะหวีและชโลมเส้นผมให้ทั่ว ซึ่งวิธีการนวดให้นวดเป็นวงกลมเล็กๆ เมื่อนวดจนทั่วศีรษะแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูพันศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นให้สระด้วยแชมพูอ่อนๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมามีสภาพดีได้เหมือนกันค่ะ

           ต่อมาสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับรังแคบนศีรษะ เพราะเมื่อไรที่รังแคมาเยือนมักจะมีอาการคันตามมาเสมอ  แถมยังสร้างความอับอายขายหน้าด้วยการออกมาโชว์ให้เห็นกันอยู่เสมอๆ ลองใช้สูตรน้ำมะนาว หรือ น้ำมะกรูด กันดูสิคะ วิธีการไม่ยากค่ะเพียงคั้นน้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดที่ผ่านการเผาไฟแล้ว มานวดหนังศีรษะหลังสระผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ให้ล้างออก เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยลดเจ้ารังแคออกจากศีรษะได้แล้วละคะ

              สำหรับคนที่มีผมอ่อนแอหลุดร่วงง่ายลองใช้ ขิง แก้ผมร่วงดูสิคะ เชื่อได้เลยว่าใช้แล้วปัญหา หัวล้าน จะไม่มาเยือนคุณแน่นอน วิธีการง่ายๆ เพียงนำเหง้าขิงสดมาเผาไฟ ทุบให้แตกผสมน้ำนำไปขยี้ให้ทั่วศีรษะ วันละ 2 ครั้ง ประมาณ 3 วัน หรือนำขิงแก่ 1 เหง้า ขนาดเท่าฝ่ามือมาตำให้ละเอียด ห่อด้วยผ้าขาวบางเป็นลูกประคบ วางบนหม้อประคบที่ต้มน้ำจนเดือด  เมื่อลูกประคบร้อนนำไปประคบบริเวณผมร่วง ทำวันละ 2 ครั้ง 20-30 นาที  3-5  วัน จะเห็นผล

           ส่วนคนที่มีเส้นผมหยิกหยักศกที่สำคัญยังพบอาการแห้งและฟู  ยิ่งถ้าทั้งหยิกและหนาด้วยแล้วล่ะก็จะทำให้ศีรษะดูโต ฟูมากยิ่งขึ้น แต่ถ้ายังชอบผมทรงนี้อยู่ไม่อยากที่จะยืดให้ตรงแล้วละก็หมั่นบำรุงดูแลรักษาด้วยวิธีต่อไปนี้สิคะ นำน้ำกับน้ำมะนาวผสมกันให้เจือจางหลังจากนั้นนำมาชโลมผมหลังจากล้างผมน้ำสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น  กรดในน้ำมะนาวจะช่วยให้ไฟเบอร์ในผมยึดเกาะกันได้แน่น  ผมจะเรียบ-หวีง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะทำให้ผมดูเงางามได้ค่ะ

            ผมมันก็เป็นผมอีกแบบที่มักสร้างปัญหาตามมามากมายทั้งเป็นสะเก็ดรังแค หนังศีรษะคันง่าย การรักษาความสะอาดของเส้นผมจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำได้ แต่ทางที่ดีต้องบำรุงรักษาด้วยไข่ขาวผสมน้ำอุ่นดูสิคะ รับรองอาการมันจะลดลงและหมดไปในที่สุดค่ะ วิธีการคือ ใช้ไข่ขาว 1 ฟองกับน้ำอุ่น ½ แก้วตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำไปราดลงบนผมเส้น ใช้มือนวดให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่นโดยไม่ต้องสระผมซ้ำ ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ผมจะค่อยๆ ปรับสภาพ และหายมันค่ะ

         สำหรับคนผมแตกปลาย พบมากในคนที่ชอบทำสีผม การม้วนผมหรือการดัด ตัดซอยด้วยใบมีดโกน หรือในคนที่ต้องใช้ความร้อนกับผมบ่อยๆ หรือแม้กระทั่งใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมอย่างขาดความระมัดระวังก็ตาม วันนี้หมดกังวลได้เลยค่ะ แค่ใช้ไข่ไก่ผสมกับน้ำมันงาและน้ำผึ้ง โดยใช้ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) จำนวน 2 ฟอง ผสมกับน้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ตีผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นใช้น้ำอุ่นราดให้ทั่วศีรษะ แล้วค่อยๆ นำส่วนผสมที่ทำไว้เทลงไปให้ทั่วศีรษะคลุมด้วยผ้าขนหนูชุบกับน้ำอุ่นหมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วสระออกด้วยแชมพูอ่อนๆ อีกครั้ง แค่นี้ผมแตกปลายก็จะเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วละค่ะ

           ผมทำสีก็เช่นกันค่ะต้องรักษาดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นสภาพผมที่อ่อนแอที่สุด นอกจากมีอาการแห้งกรอบภายในเส้นผมจะมีรูพรุนอยู่ทั่วไป ที่สำคัญยังเป็นต้นเหตุของปัญหาเส้นผมทั้งผมร่วง แห้ง เสีย หากไม่อยากให้เส้นผมมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปลองนำสูตรการดูแลเส้นผมสูตรนี้ไปใช้ดู สูตรน้ำมะนาว วิธีการทำให้นำน้ำมะนาวจำนวน 2 ผลมาคั้นเอาแต่น้ำใส่บริเวณโคนผม  ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้เป่าผมจนแห้ง วิธีนี้จะช่วยให้สีผมที่ทำมาชัดขึ้นแถมยังบำรุงหนังศีรษะได้ด้วยค่ะ

           แต่ทั้งนี้เพื่อให้เส้นผมอยู่กับเราไปนานๆ การเสริมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผมจากภายในด้วยการเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมก็จำเป็นเช่นกันค่ะ ซึ่งอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงอย่าง ฟักทอง มะละกอ ตำลึง หรือ
แครอท เหล่านี้จะช่วยให้ผมเงางามและมีน้ำหนักขึ้นได้ แต่ควรเสริมวิตามินซีและอี ธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก จากอาหารจำพวกข้าวไม่ขัดขาว ข้าวสาลี ไข่ ถั่ว นม ธัญพืช ผักผลไม้ และตับ เข้าไปด้วยจะทำให้ผมดูดียิ่งขึ้นได้ ที่สำคัญควรลดการดื่มน้ำอัดลมเพราะทำให้เลือดเป็นกรดและส่งผลให้เส้นผมสูญเสียแร่ธาตุไปในตัวได้คะ

         รู้อย่างนี้แล้วหากต้องการมีผมสวยลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะค่ะแล้วคุณจะรู้ ผมสวย” อยู่ใกล้มือคุณนิดเดียว....

เรื่องโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด

สมุนไพรกระตุ้นให้ผมงอก

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

สมุนไพรกระตุ้นให้ผมงอก
• ขิงแก่ นำขิงแก่แง่งขนาดฝ่ามือมาตำให้ละเอียด ใส่ลูกประคบ แล้วนำไปนึ่ง จากนั้นนำมาประคบบริเวณที่ผมร่วง ทำวันละ 2 ครั้งๆ ละ 20-30 นาที ประมาณ 3-5 วันจะเห็นผล
• มะกรูด นำมะกรูดประมาณ 4 ผล ต้มกับน้ำสะอาดด้วยไฟปานกลางพอนิ่ม จากนั้นผ่าครึ่ง นำไปคั้น ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำมะกรูดใส่ภาชนะไว้ พอกศีรษะทิ้งไว้แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (สูตรนี้เหมาะสำหรับผมร่วงที่เกิดจากแชมพูเป็นด่าง)
• ว่านหางจระเข้ นำวุ้นของว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับไข่ไก่แดง 1 ฟอง และน้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา ปั่นให้เข้ากัน หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ทำสัปดาห์ละครั้ง
• ผักบุ้ง หรือ ใบบัวบก คั้นเอาแต่น้ำ หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที
อ้างอิง บ้านแห่งความรู้

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.yourhealthyguide.com/article/ag-fall-hair-care.html



กายบริหารป้องกันผมร่วง

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

กายบริหารป้องกันผมร่วง
แม้จะไม่ใช่การป้องกันทางตรง แต่ท่าบริหารดังต่อไปนี้ จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหนังศีรษะได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นประสาทบนหนังศีรษะ

• ท่าที่ 1 นั่งบนเก้าอี้ท่าสบาย หรือนอนราบกับพื้น ปิดตา หายใจเข้าจนท้องพอง หายใจออกจนท้องแฟบ ทำสลับกันไปมา
• ท่าที่ 2 ยืนโน้มตัวไปข้างหน้า ก้มศีรษะเข้าหานิ้วเท้า เหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นไปด้านหลัง
• ท่าที่ 3 เลิกคิ้วให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้ จนเกิดรอยย่นที่หน้าผาก ทำค้างไว้ นับ 1-8 จากนั้นขยับคิ้วอย่างแรงและเร็ว 1 ครั้ง แล้วคลายคิ้วให้ปกติ
• ท่าที่ 4 เอามือปิดหูไว้สองข้าง แล้วขยายริมฝีปาก ลักษณะยิ้มแยกเขี้ยวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกันปิดตาให้แน่นที่สุด นับ 1-8 เพิ่มความกดมากกว่าเดิมเล็กน้อยแล้วคลาย
• ท่าที่ 5 ดึงคิ้วให้ต่ำลงชิดสันจมูกให้ได้มากที่สุด ปิดตาให้แน่น ค้างไว้ นับ 1-8 เพิ่มความกดเล็กน้อยก่อนคลาย
อ้างอิง บ้านแห่งความรู้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=luckystar&month=09-2010&date=03&group=12&gblog=267

วิตามิน กินแก้ผมร่วง

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

วิตามิน กินแก้ผมร่วง
หากใครที่ไม่สะดวกในการเลือกกินอาหาร สำหรับบำรุงผมตามที่แนะนำ วิตามินต่างๆ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยเสริมสร้างโปรตีนเคอราตินในร่างกายได้

• วิตามินเอ ครั้งละ 1 เม็ด ประมาณ 10,000 I.U. 3 เวลาหลังอาหาร
• วิตามินซี ครั้งละ 1 เม็ด หรือ 1,000 มิลลิกรัม 3 เวลาหลังอาหาร
• วิตามินอี ครั้งละ 1 เม็ด หรือ 400 I.U. เช้า
• วิตามินดี ครั้งละ 1 เม็ด ประมาณ 1,000 I.U. 3 เวลาหลังอาหาร ถ้าหากหาวิตามินดีล้วนๆ ไม่ได้ จะเอารวมกับวิตามินเอ หรือ วิตามินอีก็ได้
• วิตามินบี 1 บี 3 บี 6 บี 12 และบีคอมเพล็กซ์ อย่างละ 1 เม็ดเช้า-เย็นทุกวันหลังอาหาร
• แคลเซียม แม็กนีเซียม และสังกะสี วันละ 1 เม็ด ประมาณ 1-2 เดือน
• เมไทโอนีน (Methionine) ครั้งละ 1 เม็ด หรือ 200 มิลลิกรัม เป็นเวลา 1 เดือน
อ้างอิง บ้านแห่งความรู้
 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=luckystar&month=09-2010&date=03&group=12&gblog=267

อาหารป้องกันผมร่วง

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

อาหารป้องกันผมร่วง

เพราะเส้นผมประกอบไปด้วยโปรตีนเคอราติน เราจึงต้องกินอาหารที่จะเข้าไปเสริมสร้างโปรตีนในร่างกาย ดังต่อไปนี้
1. ข้าวและธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวมันปู ข้าวบาร์เลย์ จมูกข้าว ถั่วต่างๆ งาดำ เมล็ดทานตะวัน ฟักทอง และเมล็ดฟักทอง
2. ผักสด จำพวกหน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย มะเดื่อ ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว หัวหอม ผักโขม มะเขือเทศ และสตรอเบอร์รี่
3. วิตามินเอ เช่น ปลา (น้ำมันปลา น้ำมันตับปลา) แครอท ผักเขียวจัด-เหลืองจัด และผลไม้สีเหลือง นอกจากจะสร้างเส้นผมให้สวยงามแล้ว ยังช่วยสร้างผิวหนัง กระดูก และฟันด้วย
4. โปรตีน เช่น ปลา เต้าหู้ เห็ด ผักและผลไม้ เพื่อช่วยสร้างโปรตีนชื่อเคอราติน ซึ่งเป็นโปรตีนสร้างเส้นผม
5. น้ำเอนไซม์ เช่น หัวบีทรู้ทคั้นสดผสมกับหัวหอมนิดหน่อย อาทิตย์ละ 2-3 ถ้วยกาแฟ หรือน้ำคั้นส้มโอผสมกับกับน้ำต้มจากรำข้าวและจมูกข้าว ดื่มวันละ 1 แก้ว

ขอบคุณ บ้านแห่งความรู้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=luckystar&month=09-2010&date=03&group=12&gblog=267

ทำอย่างไรไม่ให้ผมร่วง

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

ทำอย่างไรไม่ให้ผมร่วง
1. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ เป็นตัวกระตุ้นให้ผมร่วงง่ายขึ้น
2. นวดศีรษะบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
3. ทำความสะอาดเส้นผมสม่ำเสมอ ระวังแชมพูที่มีโซเดียม ลอริล ซัลเฟต (Sodium Lauryle Sulfate) เพราะมีสารซักล้างที่มีฤทธิ์รุนแรง
4. ใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันงา หรือน้ำมันมะพร้าว ทาบริเวณที่ผมร่วงทุกวัน (ในกรณีที่ผมร่วงเพราะเชื้อรา ใช้ขี้ผึ้งผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย ทาบริเวณที่ผมร่วงก็ช่วยได้เหมือนกัน)

อ้างอิง บ้านแห่งความรู้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=luckystar&month=09-2010&date=03&group=12&gblog=267

คนรักผม

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

ผมร่วง ปัญหาของคนรักผม

คนเรามีผมคนละประมาณหนึ่งแสนเส้น โดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละวัน อาจผมร่วงวันละ 50-100 เส้น และเฉลี่ย 200 เส้น เมื่อสระผม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะจะมีเส้นใหม่เกิดแทนเส้นที่ร่วงไป แต่บางคนมีอาการผมร่วงที่รุนแรง ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ

ผมร่วง (Alopecia) มีหลายชนิด เช่น ร่วงเป็นหย่อม มักเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น แพ้ยา (ยาแก้ปวด ยาลดกรดยูริก ยาละลายลิ่มเลือด และยาลดความดันโลหิต) และโรคผิวหนัง ส่วนผมร่วงแบบพันธุกรรม เกิดจากฮอร์โมนเพศชายในร่างกายผิดปกติ โดยเส้นผมที่แข็งแรงจะค่อยๆ เล็กลง และหลุดร่วงในที่สุด สำหรับผมร่วงจากการถอน ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาทางจิตใจ และความเครียด ซึ่งมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และผมร่วงจากการเจ็บป่วย เช่น ภาวะเลือดจาง ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (ทั้งภาวะไทรอยด์เป็นพิษ และภาวะไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อย) โรคภูมิแพ้ โรคมะเร็ง (แพ้เคมีบำบัด) และซิฟิลิส ก็ทำให้ผมร่วงได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ การได้รับสารเคมีเป็นประจำ เช่น น้ำยาดัดผม สเปรย์ฉีดผม และคลอรีนในน้ำ ใช้แชมพูสระผม ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพหนังศีรษะและเส้นผม การขาดสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีน และวิตามินเอ รวมถึงคนที่ติดยาเสพติด สูบบุหรี่ และอยู่ในภาวะหลังคลอดบุตร ก็ทำให้ผมร่วงได้เหมือนกัน ใครที่กำลังประสบกับปัญหาผมร่วง ติดตามวิธีป้องกันและแก้ไขได้เลย

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล อ้างอิง บ้านแห่งความรู้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=luckystar&month=09-2010&date=03&group=12&gblog=267

วิธีกินเพื่อ "ผมสุขภาพดี" ....บำรุงจากภายใน สู่ภายนอก

"ผมทอง" เครือข่ายของคนรักษ์สุขภาพผม ออกแบบสไตล์ทรงผม เทรนด์ทรงผมใหม่ล่าสุด

วิธีกินเพื่อ "ผมสุขภาพดี" ....บำรุงจากภายใน สู่ภายนอก
เรื่องราวเกี่ยวกับการบำรุง "เส้นผม" .....ซึ่ง "ริชาร์ด วาร์ด" ช่างผมชื่อดัง ได้แนะนำวิธีการต่างๆ เพื่อทำให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดีและสวยงาม โดยเน้นที่การเลือกทานรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง

    "ริชาร์ด วาร์ด" กล่าวว่า คุณคือสิ่งที่คุณกิน เส้นผมที่มีชีวิตชีวา แวววาว และมีน้ำหนักจำเป็นต้องถูกดูแลจากภายใน การ   เปลี่ยนแปลงนิสัยการกินและการใช้ชีวิต จะส่งผลอย่างไม่น่าเชื่อต่อสุขภาพผม 

กูรูด้านเส้นผมคนนี้ก็ให้แนะนำไว้ ดังนี้
    1.เส้นผมที่แข็งแรงขึ้นอยู่กับการถูกเลี้ยงจากเลือด เส้นผมที่กระด้างและขาดชีวิตชีวา มักมีสาเหตุจากการขาดวิตามิน ความเครียดหรือการสูบบุหรี่
    2.การทำให้เส้นผมชุ่มชื่นและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผมแห้ง เช่น การดื่มกาแฟหรือเหล้า คือตัวแปรสำคัญของผมสวย
    3.การบริโภค "คาเฟอีน" มากเกินไป ทำให้ร่ายกายรักษาแร่ธาตุต่างๆ ได้น้อยลง อาจส่งผลให้เกิดภาวะ "ผมบาง" หรือ "ผมร่วง"
    4.การรับประทานอาหารที่ช่วยสร้างเลือด เช่น ถั่วต่างๆ เมล็ดต่างๆ และลูกเบอร์รี่สีเข้มทั้งหลาย จะช่วยให้สุขภาพผมดีขึ้น
    5."ผักใบสีเขียวเข้ม" ทั้งหลาย เช่น ผักโขม เป็นแหล่งอาหารที่ดี มีธาตุเหล็กสูง
    6. "น้ำมันปลา" เป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้ผมสุขภาพดี
    7. วิตามัน บี เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อเส้นผม ขอแนะนำให้ทาน "ไข่" ซึ่งจะให้ผลดีไม่แพ้การหมักผมด้วยไข่

ความเชื่อเกี่ยวกับเส้นผม "ที่เป็นความจริง"
    - การแปรงผม 100 ครั้งต่อวัน จะทำให้ผมสุขภาพดีขึ้น      เป็นความจริง เนื่องจากการแปรงผมจะกระตุ้นหนังศรีษะ ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นกระบวนการสร้างเลือดตามไปด้วย ดังนั้น จะทำให้ผมยาวเร็วขึ้นและแข็งแรงขึ้น

    - การกิน "เจลาติน" จะทำให้ผมตรงมากขึ้น
      เป็นความจริง เพราะเจลาตินอุดมไปด้วยโปรตีน นอกจากนี้ เจลาตินยังผลิตมาจาก "คอลลาเจน" ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้ผมที่งอกใหม่แข็งแรง

    - การล้างผมด้วย "น้ำเย็น" ทำให้ผมเงางาม      เป็นความจริง การสระผมด้วยน้ำเย็นช่วยให้ผมเงางามได้จริง แต่อยากแนะนำให้สระผมด้วย "น้ำอุ่น" เพราะจะยิ่งทำให้ผมเงางามขึ้นไปอีก

ความเชื่อเกี่ยวกับเส้นผม "ที่เป็นเพียงนิยาย" (คือไม่เป็นความจริง)
    - เมื่อถอนผมงอก 1 เส้นจะทำให้เกิดผมงอกขึ้น 2 เส้นในที่เดิมนั้น ไม่เป็นความจริง

    - การตัดผมจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้น หรือการไม่ตัดผมจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้น ถือว่าไม่เป็นจริงทั้ง 2 กรณี

    - การเล็มปลายผมบ่อยๆ เพื่อกำจัดผมแตกปลาย ก็ไม่ช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้นหรือยาวช้าลงแต่อย่างใดเช่นกัน

อ้างอิง http://women.thaiza.com/detail_133269.html